ข้อบังคับ
สมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2554)
หมวดที่ 1
ความทั่วไป
... | ข้อ 1 | .. | สมาคมนี้ชื่อว่า “สมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย” ใช้ชื่อย่อว่า “สอนท.” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Thai Environmental Health Association” |
ใช้อักษรย่อว่า “TEHA” | |||
ข้อ 2 | เครื่องหมายของสมาคมเป็นรูปคนและสิ่งแวดล้อมอยู่ภายในกรอบวงกลมพื้นสีเขียว ด้านบนมีชื่อสมาคมเป็นภาษาไทยและด้านล่างมีชื่อสมาคม |
||
เป็นภาษาอังกฤษ ตามข้อ 1 | |||
... | ข้อ 3 | .. | สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 420/1 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 |
โทรศัพท์/โทรสาร 023548525 | |||
ข้อ 4 | วัตถุประสงค์ของสมาคม | ||
4.1 | เพื่อฟื้นฟูวิชาการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ และประสบการณ์ระหว่างสมาชิก | ||
4.2 | เพื่อส่งเสริมมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก และส่งเสริมการบำเพ็ญประโยชน์ที่สมาชิกจะพึงมีในการพัฒนาทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม | ||
4.3 | เพื่อร่วมมือและประสานงานกับสโมสร สมาคม ชมรม และองค์กรอื่น ๆ ที่มีวัตถุประสงค์สอดคล้องกัน | ||
4.4 | เพื่อส่งเสริมสวัสดิการแก่สมาชิก | ||
4.5 | เพื่อส่งเสริมการศึกษาวิจัย และกำหนดมาตรฐานงานอนามัยสิ่งแวดล้อมตามสภาวการณ์ของประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ | ||
ในการพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิต สมาคมจะไม่ดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางการเมือง | |||
... | |||
...............................................................................................หมวดที่ 2 | |||
................................................................................................สมาชิก | |||
ข้อ 5 | สมาชิกของสมาคม มี 3 ประเภท | ||
5.1 | สมาชิกสามัญ ได้แก่ ผู้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมหรือสุขาภิบาล หรือวิทยาศาสตร์สาธารณสุข | ||
หรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนามัยสิ่งแวดล้อม ซึ่งสมาคมฯ ให้การรับรอง | |||
5.2 | สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ | ||
1. ผู้ปฏิบัติงานทางด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม | |||
2. ผู้ที่มีความสนใจในกิจกรรมของสมาคม และนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ซึ่งมีความสนใจทางด้าน อนามัยสิ่งแวดล้อม | |||
5.3 | สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลผู้ทรงเกียรติ หรือทรงคุณวุฒิ หรือผู้มีอุปการคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิก | ||
ของสมาคม | |||
ข้อ 6 | สมาชิกจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ | ||
6.1 | เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว | ||
6.2 | เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย | ||
6.3 | ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ | ||
6.4 | ไม่ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือต้องโทษจำคุก | ||
ยกเว้นความผิดฐานประมาท หรือลหุโทษการต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด ในกรณีดังกล่าวจะต้องเป็นในขณะที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก | |||
หรือในระหว่างที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้น | |||
ข้อ 7 | ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาคม | ||
7.1 | สมาชิกสามัญ จะต้องเสียค่าลงทะเบียนเป็นครั้งแรก (ฟรี) บาท | ||
ค่าบำรุงสมาคมเป็นรายปี ๆ ละ (ตามประกาศของสมาคม) บาท | |||
ค่าบำรุงสมาคมสำหรับสมาชิกตลอดชีพ (ตามประกาศของสมาคม) | |||
สำหรับในรายที่สมาชิกชำระค่าสมาชิกติดต่อกัน 5 ปี ให้เป็นสมาชิกตลอดชีพโดยอัตโนมัติ | |||
7.2 | สมาชิกสามัญ จะต้องเสียค่าลงทะเบียนเป็นครั้งแรก (ฟรี) บาท | ||
ค่าบำรุงสมาคมเป็นรายปี ๆ ละ (ตามประกาศของสมาคม) บาท | |||
7.3 | สมาชิกกิตติมศักดิ์ มิต้องเสียค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคมแต่อย่างใดทั้งสิ้น | ||
ข้อ 8 | การสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมต่อเลขาธิการ | ||
ให้เลขาธิการสมาคมตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร แล้วนำรายชื่อผู้สมัครใหม่ เสนอคณะกรรมการบิรหารของสมาคม เพื่อพิจารณาอนุมัติ | |||
สมาชิกภาพจะสมบูรณ์ เมื่อผู้สมัครได้รับอนุมัติและชำระค่าบำรุงครบถ้วนแล้ว | |||
ข้อ 9 | ถ้าคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ก็ให้ผู้สมัครนั้นชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคม ให้เสร็จภายใน 30 วัน | ||
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากเลขานุการ และสมาชิกภาพของผู้สมัครให้เร่มนับตั้งแต่วันที่ผู้สมัครได้ชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงสมาคม | |||
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าผู้สมัครไม่ชำระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบำรุงภายในกำหนด ก็ให้ถือว่าการสมัครคราวนั้นเป็นอันยกเลิก | |||
ข้อ 10 | สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับคำเชิญของผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้เชิญเข้าเป็นสมาชิก | ||
ของสมาคม ได้มาถึงยังสมาคม | |||
ข้อ 11 | สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้ | ||
11.1 | ตาย | ||
11.2 | ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี้สินที่ยังติด- | ||
ค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว | |||
11.3 | ขาดคุณสมบัติสมาชิก | ||
11.4 | ที่ประชุมใหญ่ของสมาคม หรือคณะกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งลงมติให้ลบชื่ออกจากทะเบียน เพราะสมาชิกผู้นั้นได้ประพฤตินำควาเสื่อมเสีย | ||
มาสู่สมาคม | |||
ข้อ 12 | สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก | ||
12.1 | มีสิทธิเข้าใช้สถานที่ของสมาคมโดยเท่าเทียมกัน | ||
12.2 | มีสิทธิเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อคณะกรรมการ | ||
12.3 | มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่าง ๆที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น | ||
12.4 | มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม | ||
12.5 | สมาชิกสามัญมีสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็นกรรมการสมาคม และมีสิทธิกกเสียงลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุม | ||
ได้คนละ 1 คะแนนเสียง | |||
12.6 | มีสิทธิร้องขอต่อคระกรรมการเพื่อตรวจสอบเอกสารและบัญชีทรัพย์สินของสมาคม | ||
12.7 | มีสิทธิเข้าชื่อร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งในสามของสมาชิกสามัญทั้งหมดร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญได้ | ||
12.8 | มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติ และข้อบังคับของสมาคมโดยเคร่งครัด | ||
12.9 | มีหน้าที่ประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม | ||
12.10 | มีหน้าที่ให้ความร่วมือและสนับสนุนการดำเนินกิจการต่างๆ ของสมาคม | ||
12.11 | มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น | ||
12.12 | มีหน้าที่ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รูปจักอย่างแพร่หลาย | ||
... | |||
.............................................................................หมวดที่ 3 | |||
...................................................................การดำเนินการสมาคม | |||
ข้อ 13 | ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคมที่จำนวนอย่างน้อย 10 คน อย่งมากไม่เกิน 20 คน | ||
คณะกรรมการนี้ต้องเป็นสมาชิกสามัญที่ได้มาจากการลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม และให้ผู้ที่ได้เลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ | |||
เลือกตั้งกันเองเป็นนายกสมาคม 1 คน และอุปนายก 2 คน สำหรับตำแหน่งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ให้นายกสมาคมเป็นผู้แต่งตั้ง | |||
......ผู้ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่เข้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ของสมาคม ตามที่ได้กำหนดไว้ซึ่งตำแหน่งของกรรมการสมาคม | |||
มีตำแหน่งและหน้าที่โดยสังเขป ดังต่อไปนี้ | |||
13.1 | นายกสมาคม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธาน | ||
ในที่ประชุมคณะกรรมการและการประชุมใหญ่ของสมาคม | |||
13.2 | อุปนายก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่ที่นายกสมาคมได้มอบหมาย และทำหน้าที่แทนนายก- | ||
สมาคม เมื่อนายกสมาคมได้มอบหมายและทำหน้าที่แทน | |||
13.3 | เลขาธิการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมดเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่ง | ||
ของนายก ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาคม | |||
13.4 | เหรัญญิก มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคมเป็นผู้จัดทำบัญชี รายรับ รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคมและก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ | ||
ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ | |||
13.5 | ปฏิคม มีหน้าที่ในการต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียม สถานที่ของสมาคม และจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่างๆ ของสมาคม | ||
13.6 | นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม ประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงของสมาคมจากสมาชิก | ||
13.7 | ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย | ||
13.8 | กรรมการ ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้น โดยมีตำแหน่งอื่นๆ จำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้น | ||
แล้ว จะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนดตำแหน่ง ก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง | |||
ข้อ 14 | คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตำแหน่งได้คราวละ 3 ปี โดยนายกสมาคมจะอยู่ในวาระได้ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน | ||
และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ | |||
ก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดวาระรักษาการไปก่อน จนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ | |||
และเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่าง | |||
คณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียน | |||
จากทางราชการ | |||
ข้อ 15 | ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดตามวาระ ก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควร | ||
เข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น และถ้าเป็นตำแหน่ง | |||
นายกสมาคมว่างก็ให้คณะกรรมการเลือกกันเองเป็นนายกสมาคม | |||
ข้อ 16 | กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ | ||
16.1 | ตาย | ||
16.2 | ลาออก | ||
16.3 | ขาดจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับและตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ | ||
16.4 | ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่ง | ||
16.5 | เป็นผู้ที่มีความประพฤติและปฎิบัติตนเป็นที่เสื่อมเสียและคณะกรรมการสมาคมมีมติให้ออก โดยมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ | ||
ของคณะกรรมการของสมาคม | |||
ข้อ 17 | กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการและคณะกรรมการมีมติให้ออก | ||
ข้อ 18 | อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ | ||
18.1 | มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้ | ||
18.2 | มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม | ||
18.3 | มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระ | ||
ของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง | |||
18.4 | มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ | ||
18.5 | มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่น ๆ ที่ยังมิได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ | ||
18.6 | มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอกจนมีอำนาจอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ | ||
18.7 | มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม | ||
18.8 | มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ตาที่สมาชิกสามัญ จำนวน 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดได้เข้าชื่อร้องขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น | ||
ซึ่งการนี้จะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ | |||
18.9 | มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงินทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ | ||
และสามารถจะให้สมาชิกตรวจดูได้เมื่อสมาชิกร้องขอ | |||
18.10 | จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ | ||
18.11 | มีหน้าที่อื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ | ||
ข้อ 19 | คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อยสามเดือนครั้ง ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม | ||
ข้อ 20 | การประชุมคณะกรรมการ จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม | ||
มติของที่ประชุมคณะกรรมการ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน | |||
ก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด | |||
ข้อ 21 | ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้กรรมการที่เข้าประชุม | ||
ในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น | |||
... | |||
............................................................................หมวดที่ 4 | |||
.................................................................... ...การประชุมใหญ่ | |||
ข้อ 22 | การประชุมใหญ่ของสมาคมมี 2 ชนิด คือ | ||
22.1 | ประชุมใหญ่สามัญ | ||
22.2 | ประชุมใหญ่วิสามัญ | ||
ข้อ 23 | คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๆ ละ 1 ครั้ง | ||
ข้อ 24 | การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจจะมีขึ้นได้ก็ด้วยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้นหรือเกิดขึ้นด้วยการเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกไม่น้อยกว่า | ||
50 คน หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในข้อบังคับจะทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการของสมาคมให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญก็ได้ | |||
ในหนังสือร้องขอนั้นต้องระบุว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อการใด เมื่อคณะกรรมการของสมาคมได้รับหนังสือขอให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ | |||
ตามวรรคแรก ให้คณะกรรมการของสมาคมเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ | |||
ถ้าคณะกรรมการของสมาคมไม่เรียกประชุมภายในระยะเวลาตามวรรคสอง สมาชิกที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมหรือสมาชิกอื่นรวมกัน | |||
มีจำนวนไม่น้อยกว่าจำนวนสมาชิกที่กำหนดตามวรรคแรกจะเรียกประชุมเองก็ได้ | |||
ข้อ 25 | การแจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งกำหนดนัดประชุมใหญ่ให้สมาชิกได้ทราบและการแจ้งจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร | ||
โดยระบุวัน เวลา และสถานที่ให้ชัดเจน โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน และประกาศแจ้งกำหนดนัดประชุมไว้ | |||
ณ สำนักงานของสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนถึงกำหนดประชุมใหญ่หรือลงพิมพ์โฆษณาอย่างน้อยสองคราวในหนังสือพิมพ์ที่แพร่- | |||
หลายในท้องที่ฉบับหนึ่งก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วันได้ | |||
ข้อ 26 | การประชุมใหญ่สามัญประจำปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้ | ||
26.1 | แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี | ||
26.2 | แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกรับทราบ | ||
26.3 | เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เมื่อครบกำหนดวาระ | ||
26.4 | เลือกตั้งผู้สอบบัญชี | ||
26.5 | ตรวจสอบทะเบียนสมาชิกให้เป็นปัจจุบัน | ||
26.6 | เรื่องอื่นๆ ถ้ามี | ||
ข้อ 27 | การประชุมใหญ่สามัญประจำปีหรือการประชุมใหญ่วิสามัญมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งหรือไม่น้อยกว่า 50 คน จึงจะครบองค์ประชุม | ||
หากถึงกำหนดเวลาการประชุมแล้วสมาชิกยังไม่ครบองค์ประชุม ถ้าการประชุมใหญ่ครั้งนั้นเป็นการประชุมใหญ่ตามคำเรียกร้องของสมาชิก | |||
ก็ให้งดการประชุม ถ้าการเป็นกรณีการประชุมใหญ่ที่คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้เรียกประชุม ก็ให้เรียกประชุมใหญ่อีกครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่า | |||
ต้องครบองค์ประชุม | |||
ข้อ 28 | การลงมติต่างๆ ในที่ประชุมใหญ่ ถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงที่ลงมติ | ||
มีคะแนนเสียงเท่ากัน ก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด | |||
ข้อ 29 | ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่ร่วมประชุม หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ให้ที่ประชุมทำการ | ||
เลือกตั้งกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่งให้ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น | |||
... | |||
............................................................................หมวดที่ 5 | |||
.....................................................................การเงินและทรัพย์สิน | |||
ข้อ 30 | การเงินและทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ เงินสดของสมาคมถ้ามีให้ทำฝากไว้ในธนาคาร | ||
ข้อ 31 | การลงนามในตั๋วเงินหรือเช็คของสมาคม จะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้ทำการแทนลงนามร่วมกับเหรัญญิก หรือเลขานุการ | ||
ข้อ 32 | ให้นายกสมาคมมีอำนาจสั่งจ่ายเงินของสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจาก | ||
คณะกรรมการ | |||
ข้อ 33 | ให้เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมได้ไม่เกิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่าจำนวนนี้ จะต้องนำฝากธนาคารในบัญชี | ||
ของสมาคมทันทีที่โอกาสอำนวยให้ | |||
ข้อ 34 | เหรัญญิกจะต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่ายและบัญชีงบดุลให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ การรับหรือจ่ายเงินทุกครั้งจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ | ||
ลงลายมือชื่อของนายกสมาคมหรือผู้ทำการแทนร่วมกับเหรัญญิก หรือผู้ทำการแทน พร้อมกับประทับตราของสมาคมทุกครั้ง | |||
ข้อ 35 | ผู้สอบบัญชี จะต้องมิใช่กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต | ||
ข้อ 36 | ผู้สอบบัญชี มีอำนาจหน้าที่จะเรียกเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการและสามารถจะเชิญกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของ | ||
สมาคม เพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชีและทรัพย์สินของสมาคมได้ | |||
ข้อ 37 | คณะกรรมการจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี เมื่อได้รีบการร้องขอ | ||
... | |||
.............................................................................หมวดที่ 6 | |||
.................................................การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม | |||
ข้อ 38 | ข้อบังคับของสมาคมจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่เท่านั้นและองค์ประชุมใหญ่จะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมไม่น้อยกว่า | ||
ครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด มติของที่ประชุมใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้องบังคับ จะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของ | |||
สมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด | |||
ข้อ 39 | การเลิกสมาคมจะเลิกได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นเป็นการเลิกเพราะเหตุของกฎหมาย มติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิกสมาคม | ||
จะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของสมาชิกสามัญที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด และองค์ประชุมใหญ่จะต้องไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิก | |||
สามัญทั้งหมด | |||
ข้อ 40 | เมื่อสมาคมต้องเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลืออยู่หลังจากที่ได้ชำระบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ตกเป็นสมบัติของ | ||
มหาวิทยาลัยมหิดล (เพื่อใช้ในงานของภาควิชาวิทยาศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์) | |||
... | |||
..............................................................................หมวดที่ 7 | |||
............................................................................บทเบ็ดเตล็ด | |||
ข้อ 41 | การตีความข้อบังคับของสมาคม หากเป็นที่สงสัยให้ที่ประชุมใหญ่โดยเสียงข้างมากของที่ประชุมชี้ขาด | ||
ข้อ 42 | ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยสมาคมมาใช้บังคับ ในเมื่อข้องบังคับขอสมาคมมิได้กำหนดไว้ และหากมี | ||
ข้อบังคับใดขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก้ให้ถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ | |||
ข้อ 43 | สมาคมต้องไม่ดำเนินการหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน หรือเพื่อบุคคลใดนอกจากดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมเอง | ||
... | |||
.............................................................................หมวดที่ 8 | |||
.......................................................................... บทเฉพาะกาล | |||
ข้อ 44 | ข้องบังคับฉบับนี้นั้น ให้เริ่มใช้บังคับได้นับตั้งแต่วันที่สมาคมได้รับอนุญาติให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเป็นต้นไป | ||
ข้อ 45 | เมื่อสมาคมได้รับอนุญาติให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจาทางราชการ ก็ให้ถือว่าผู้เริ่มทั้งหมดเป็นสมาชิกสามัญ และสมาชิกภาพของ | ||
คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เริ่มตั้งแต่วันจดทะเบียนเป็นต้นไป | |||
......................................................................................